รูหนอน, Wormhole
ท่านครับ การเดินทางของมนุษย์ต่างดาวข้ามจักรวาล
ฝรั่งกล่าวไว้ว่านอกจากยานอวกาศของเขาจะเจริญด้วยอารยธรรมกว่าม
นษย์บนโลกเป็นล้านปี แล้ว เขายังใช้วิธีพิเศษในการเดินทางด้วย
เขาใช้การเิดินทางโดยผ่านเข้าไปใน "wormhole" หรือ รูหนอน
มดใช้เวลาเดินทางจากจุดหนึ่งไปยังอีกจุดหนึ่งโดยการเดิน
หนอนใช้การเดินทางโดยการไช รูหนอนนั้น
เป็นทางผ่านเจาะทะลุจากจุดหนึ่งไปยังอีกจุดหนึ่งของแกแลคซี่ ทั้งนี้
ยังสามารถเป็นจุดทะลุจากจุดหนึ่งของแกแลคซี่
ไปยังจุดอื่นของอีกแกแลคซีี่่ได้ด้วย
ซึ่งการเดินทางในลักษณะนี้จะเร็วกว่าแสงเสียด้วยซ้ำไปเพราะเป็นการโด
ยใช้ทางลัด ทำให้ย่นระยะเวลาในการเดินทางในอวกาศได้เป็นสิบ ๆ ล้าน
ปีเลยทีเดียว
จากความรู้ที่ผมหาได้แล้ว
ฝรั่งที่เขาจับมนุษย์ต่างดาวและยานพาหนะของมนุษย์ต่างดาวได้
และนำมาถอดความลับยานพาหนะของมนุษย์ต่างดาว
(เรียกBack engineering) ค้นพบสิ่งหนึ่งที่น่าสนใจเป็นอย่างยิ่งว่า
แท้ที่จริงแล้ว อวกาศ หรือ อากาศอันกว้างใหญ่นี้
มันไม่ได้โล่งอย่างที่มนุษย์โลกเข้าใจ ๆ กัน
แต่แท้จริงอวกาศจะเป็นเสมือนผืนผ้าผืนใหญ่ ๆ ผืนหนึ่งอีกนัยหนึ่ง
เขาเรียกมันว่า Fabric of Space(ผืนผ้าอวกาศ)
ผมเองพยายามจะทำความเข้าใจกับมันว่ามันคืออะไร ทำงานอย่างไร
ตอนแรก ๆ สับสน งง ๆ แต่ตอนหลังมาเจออยู่คลิปหนึ่ง
ซึ่งเป็นอาจารย์ในมหาวิทยาลัย เขาอธิบายคำว่า Fabric of Space
ได้ดีมาก ๆ เลยครับ ดูคลิปเขาแล้ว เข้าใจง่ายครับ
อยากจะให้ท่านลองชมคลิปนี้ดูครับ
ก็คืออาจารย์ในคลิปท่านอธิบายว่า หากท่านมีผ้าผืนหนึ่งที่บาง ๆ
และขึงให้ตึง ๆ แล้ว เมื่อใดก็ตามแต่ที่ท่านหย่อนวัตถุลงบนผ้าผืนนี้
มันก็จะทำให้ผ้าผืนนี้ยุบลง
อันเนื่องมาจากการแทนที่ของวัตถุที่มีน้ำหนักลงบนที่ว่างนั่นเอง
ฉะนั้นแล้วผ้าตรงบริเวณที่มีวัตถุมาวางจะมีความตึงเพิ่มขึ้น
ในคลิปอาจารย์ท่านลองให้มีก้อนอะไรบางอย่างวางลงบนผ้า
จากนั้นลองหย่อนลูกเหล็กเล็ก ๆ กลม ๆ ที่เล็กกว่าวัตถุที่วางบนผ้า
ปรากฎว่าลูกเหล็กนี้ก็จะกลิ้งหรือเคลื่อนที่เข้าไปหาวัตถุใหญ่ที่วางอยู่
บนผ้าผืนนี้ ลักษณะวิ่งเข้าไปเป็นแนววงกลม(ดูตามคลิปครับ)
ตรงนี้หากว่าท่านมีวัตถุก้อนใหญ่กว่าวัตถุเดิมนำมาหย่อนลงไปบนผ้าผืนนี้แล้ว
วัตถุเดิมก็จะเคลื่อนที่เป็นแนววงกลมเช่นกันเข้าไปหาวัตถุก้อนที่ใหญ่กว่า
และลูกเหล็กเล็ก
ก็เช่นเดียวกันจะเคลื่อนที่เข้าหาวัตถุก้อนเดิมและเคลื่อนที่เข้าไปหาวัตถุ
ก้อนที่ใหญ่กว่าไปด้วย ตรงนี้อธิบายได้ว่าทำไม
ดวงจันทร์เคลื่อนที่รอบโลก เพราะว่าดวงจันทร์เล็กกว่าโลก
มีมวลที่น้อยกว่าโลก โลกโคจรรอบดวงอาทิตย์
เพราะว่าดวงอาทิตย์ใหญ่กว่าโลกและมีมวลมากกว่าด้วย
เพราะฉะนี้ดวงจันทร์นอกจากจะโคจรรอบโลกแล้วก็ยังคงโคจรรอบ
ดวงอาทิตย์ไปอีกด้วย ซึ่งดวงอาทิตย์ก็ไม่ได้อยู่เฉย ๆ นะครับ
มันโคจรอยู่รอบแกแลคซี่ ที่มีมวลมหาศาลกว่ามันเป็นหลายพันล้านเท่า
ฉะนั้นแล้วจึงอนุมานได้ว่าอวกาศที่แท้จริงแล้ว
เป็นสสารชนิดหนึ่งที่มีตัวตน ไม่ได้โล่ง ๆ อย่างที่คนเข้าใจ
ก็คือเป็นผ้าผืนใหญ่ ๆ ผืนหนึ่ง(Fabric of Space)
เพียงแต่ว่าอวกาศบริเวณมันถูกแทนที่ด้วยวัตถุใด หรือมีมวลมากเท่าใด
อวกาศเมื่อใดก็ตามที่ถูกแทนที่ด้วยวัตถุหรือมวลแล้ว
จะทำให้ความตึงหรือมวลสารของตัวมันเองเปลี่ยนแปลงไปจากเดิม
ซึ่งทำให้สามารถใช้ประโยชน์อวกาศในบริเวณนั้นได้ครับ อาทิเช่น
ยานอวกาศเมื่ออยู่ในอวกาศสามารถจะเพิ่มความเร็วได้โดยไปโคจรรอบ
อวกาศที่อยู่รอบ ๆ ดวงอาทิตย์
เพื่อให้มวลหรือความตึงของอวกาศในบริเวณโดยรอบดวงอาทิตย์นั้น
เหวี่ยงหรือส่งให้ยานอวกาศมีความเร็วที่เพิ่มขึ้นเป็นหลาย ๆ เท่า
แล้วสุดท้ายจึงค่อยจากดวงอาทิตย์ออกมาดวงความเร็วที่เพิ่มขึ้นมาก ๆ
(เช่นเดียวกับผ้าที่มีความตึงเพิ่มขึ้น) อวกาศสามารถที่จะ บิดได้
พับได้ เจาะได้ ฯลฯ เพียงแต่ว่าคุณรู้เรื่องหรือไม่ว่าต้องทำอย่างไร
หรือมีความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีที่มากพอแค่ไหนที่จะไปทำสิ่งนั้นได้
มนุษย์บนโลกทำไม่ได้ครับ ความรู้เรามีไม่มากพอ
แต่สิ่งมีชีวิตจากโลกอื่น เขาฉลาดกว่าเรา เจริญกว่าเรา
เขารู้ครับว่าต้องทำอย่างไร
เขาจึงเดินทางมาถึงโลกเราที่อยู่ห่างกันเป็นหลาย ๆ สิบปีแสงได้ครับ
มนุษย์ต่างดาวสายพันธุ์ Greys ดาวของเขาอยู่ห่างจากโลกเราประมาณ
37 ปีแสง มนุษย์ต่างดาวสายพันธุ์ Nordic
ดาวของเขาอยู่ห่างจากเราประมาณ 500 ปีแสงเศษ เขามาถึงเราได้
Gravity is not a force, but a curvature in space - time. Objects
with mass cause a curvature in space and time. There only
appears to be a force, when in reality everything is just
following straight lines
แรงโน้มถ่วงไม่ใช่แรงชนิดหนึ่ง
แต่เป็นความโค้งงอของอวกาศอันเกิดจากการที่วัตถุนั้น
ๆ ไปแทนที่อวกาศในบริเวณนั้นอยู่ วัตถุที่มีมวล(น้ำหนัก)
จะทำให้อวกาศในบริเวณนั้นเกิดการโค้งงอ นี่เป็นทฤษฎีของ
Dr.Albert Einstein
เรียกทฤษฎีสัมพรรคภาพ(Relativity)
ถ้ามนุษย์สามารถทำความเข้าใจกับกายภาคของอวกาศได้
สักวันหนึ่งในอนาคตมนุษย์ก็สามารถเดินทางข้ามอวกาศไปในที่ไกล ๆ ได้
รูหนอน หรือ wormhole จริง ๆ แล้ว มันคือเป็นการพับอวกาศ
(ดูตามรูปด้านบนครับ)
คือถ้าหากว่าเราจะเดินทางจากจุดหนึ่งไปยังอีกจุดหนึ่งในจักรวาลอันไกล
โพ้นแล้ว ถ้าหากว่าเราพับจักรวาลได้ โดยมีทางผ่านทางเชื่อม
มันก็ย่อมจะทำให้เราเดินทางได้ลัดขึ้นมาก ๆ กว่าที่เราจะไปเดินทางตรง ๆ
หรืออ่านคำอธิบายในรูปอีกครั้งครับว่า
ประโยชน์ของรูหนอนมันเป็นไปได้แม้กระทั่งจะทำให้เราเดินทางไปใน
อนาคตได้ หรือเิดินทางย้อนกลับไปในอดีตก็ยังได้
ลองชมที่ฝรั่งเขาอธิบายคำว่า รูหนอน
ตามลิงค์ด้านล่างได้ครับ
https://www.youtube.com/watch?v=4qbMbPLyReo
ถ้าหากว่าท่านชมวีดีโอข้างบนเรียบร้อยแล้ว
เรามาดูของจริงกันเลยครับ รูหนอน ว่าหน้าตามันเป็นอย่างไร
หาชมหาดูได้ยากเย็นเสียยิ่งกว่า ยูเอฟโอ อีกครับ และจะเห็นได้ชัด ๆ
ก็จะเป็นตอนกลางคืนเท่านั้น เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นในวันที่ 24 ธันวาคม
2555 เป็นรูหนอนที่ชัดเจนมาก ๆ เลยครับ
และสิ่งที่เดินทางออกมาจากรูหนอนก็คือ ยูเอฟโอ นั่นเองครับ
รูหนอนมีสภาพเป็นปากแตรเปิดทั้งสองฝั่ง
ให้วัตถุสามารถเคลื่อนที่ผ่านไปจากจุดหนึ่งไปยังอีกจุดหนึ่งได้
ที่เห็นในวีดีโอเป็นรูหนอนฝั่งเปิดที่ประเทศรัสเซีย
แต่อีกฝั่งของรูหนอนไม่ทราบแน่ว่าต้นทางมาจากจุดใด
รูหนอนที่ท่านเห็นอาจจะมีอีกฝั่งหนึ่งไปทะลุยังแกแลคซี่อื่นก็เป็นไปได้เห
มือนกันครับ
https://www.youtube.com/watch?v=k3cBCW6lmpQ
ผมเองว่าวิชา ฟิสิกส์ควอนตัม ฟิสิกส์ชั้นสูง ที่เคยเรียน ๆ
กันมาสมัยมัธยมปลายหรือมหาวิทยาลัย จะเข้าใจยากแล้ว
แต่มันก็ยังเป็นสิ่งที่อยู่ในความสามารถที่มนุษย์จะคิดขึ้นมาได้
สามารถพิสูจน์ได้ในห้องปฎิบัติการ แต่ว่าสิ่งหนึ่งที่ผมสงสัยมาก ๆ คือ
ฝรั่งนั้นรู้เรื่องรูหนอนและเข้าใจการทำงานของรูหนอนได้อย่างไร
ว่ามันทำงานกันอย่างไร ถ้าเขาไม่จับมนุษย์ต่างดาวได้สักคน
หรือยูเอฟโอได้ก่อนสักลำ มันจะเป็นไปได้หรือว่าเขาจะเข้าใจอะไรยาก ๆ
ได้
ผมเจออีกคลิปหนึ่ง
เป็นคลิปที่รูหนอนที่ไปโผล่ที่ประเทศสาธารณรัฐประชาชนจีน ดูแล้ว
ไม่พบว่ามีความผิดปกติอะไร ภาพก็คมชัดมาก ๆ คนดูยังมีน้อย อยาก
จะฝากให้ท่านพิจารณาอีกสักคลิปครับ ผมเองไม่แน่ใจว่า
ในประเทศไทยเคยมีผู้คนพบเห็นรูหนอนบ้างแล้วหรือยัง ถ้าเคยมีการ
ค้นพบแล้ว จะแบ่งให้ผมชมบ้างก็จักเป็นพระคุณยิ่งครับ
ข้อพึงสังเกตุ ถ้ารูหนอนเป็นสิ่งที่คนในประเทศหนึ่งทำขึ้น มัน
จะไปปรากฎหรือทดลองกับอีกสถานที่หนึ่งในประเทศอื่นที่
เป็นประเทศมหาอำนาจ ผมว่ายากเหมือนกัน ประเทศเจ้าของเขาคง
ไม่ยอมแน่ ๆ แต่ลักษณะของรูหนอนที่ปรากฎ
ในแต่ละสถานที่แต่ละประเทศ มีลักษณะเดียวกันมีพฤติกรรมที่คล้าย
กันมาก ๆ เพราะฉะนั้นมันต้องมาจากสิ่งมีชีวิตเผ่าเดียวกันทำขึ้น
** โปรดใช้วิจารณญาณในการรับชมด้วยครับ
ผมคัดลอกคลิปนี้มาจาก http://youtu.be/pBr2iDXIKxY
กระผมขอบพระคุณท่านเจ้าของคลิปเป็นอย่างมากครับ
คลิปด้านล่างนี้เป็นอีกเหตุการณ์ที่แปลกเช่นกันครับ ถูกบันทึกได้เมื่อปี
2002 ใกล้กับ area 51 ชื่อ Yosemite Park
เป็นเขตแดนระหว่างรัฐแคลิฟอร์เนียกับรัฐเนวาดา
หลังจากเหตุการณ์ผ่านไปไม่กี่นาที
ก็มีเฮลิคอปเตอร์หลายลำมาบินวนเวียนอยู่บริเวณนั้นครับ
ทั้งนี้กระผมขอขอบพระคุณ เวบไซด์ที่ได้นำภาพและวีดีโอมาลงเป็นอย่าง
สูงครับคือเวบที่เือื้อเฟื้อภาพ wormhole
http://www.google.com/imgres?imgurl=http://www.bloggang.com/data/cryptomnesia/picture/1233072738.jpg&imgrefurl=http://www.bloggang.com/viewblog.php?id%3Dcryptomnesia%26group%3D10%26page%3D5&h=373&w=450&sz=71&tbnid=W3Gad4F8Yu0jlM:&tbnh=90&tbnw=109&zoom=1&usg=__usbDfohFnoHYKVDBQ93CTiX55C8=&docid=VFshjZl6Y_-OUM&sa=X&ei=LfmIUbzkDsvtrQesuIDQDw&ved=0CDcQ9QEwAg&dur=224
http://www.google.com/imgres?imgurl=http://pixserv.clipmass.com/upload/picture/full/ee5136202a50d7beb3bfdb458de653db.jpg&imgrefurl=http://www.unigang.com/Article/11166&h=447&w=634&sz=129&tbnid=Elkx97Jr3PFMNM:&tbnh=90&tbnw=128&zoom=1&usg=__CvLmRPslV9pgm1xRzPhum9Mpk_A=&docid=NQSIcuyDJR916M&sa=X&ei=LfmIUbzkDsvtrQesuIDQDw&ved=0CDQQ9QEwAQ&dur=608
http://www.youtube.com/watch?v=xrqddHEkgQ8
คลิปด้านล่างนี้ถ่ายได้ที่อิหร่านครับ ถ่ายโดยชาวบ้านแถบ ๆ นั้น
ตอนแรกผมดูแล้วมันจะใช่ดาวหางหรือไม่ แต่ดูไปเรื่อย ๆ
แล้วคงไม่ใช่แน่นอนครับ เพราะตอนสุดท้ายมันหายไปเฉย ๆ
ลักษณะจะคล้าย ๆ จะหายไปในอีกมิติหนึ่ง
ลักษณะคล้ายยูเอฟโอที่เข้าไปในรูหนอนครับ
ถ้าเทียบกับคลิปด้านบนแล้ว
http://www.youtube.com/watch?v=1xzFUw3dm-8
ดูเหมือนว่าเหตุการณ์นี้จะถูกพบเห็นที่ประเทศอิสราเอลด้วยครับ
ซึ่งอิสราเอลก็อยู่ไม่ไกลจากอิหร่านเท่าไรนัก
นักวิเคราะห์บางท่านบอกว่าอาจจะเป็นขีปนาวุธชนิดหนึ่งก็ได้
แต่ผมดูแล้วมันไม่มีสะเก็ดอะไรเลย แต่กลับจะวนเป็นวง ๆ แล้วหายไปเฉย ๆ
อยากฝากให้ท่านพิจารณาอีกสักคลิปครับ
http://www.youtube.com/watch?v=ZhKfDAHxjjM
ส่วนคลิปนี้เหมือนกับสองคลิปด้านบนเลยครับ
เข้าใจว่าจะเจออยู่ในคาซัคสถาน หรือไม่งั้นก็คงจะรัสเซีย
เพราะภาษาที่นำมาลงเป็นภาษาคล้าย ๆ ภาษารัสเซีย
และที่สำคัญคือพฤติกรรมมันก็คล้าย ๆ กับสองคลิปด้านบนด้วย วิ่งมาดี ๆ
แล้วก็แตกเป็นวง ๆ และหายไปเฉย ๆ ไม่แน่ชัดว่าเป็นอะไร
http://www.youtube.com/watch?v=ReIkLkkCofk
http://www.youtube.com/watch?v=0HRcnI1u0sU
และแล้วในที่สุดเหตุการณ์นี้ก็มาเกิดขึ้นที่เสียมประเทศจนได้ ก็
แปลกเช่นกันครับ อยากจะให้ท่านใช้วิจารณญาณชมดูก่อน
https://www.facebook.com/100002210902979/videos/pcb.5962864190463885/707899693966876
ก็ตามคำอธิบาย ท่านใช้คำว่า "คาดว่า" ซึ่งนั่นก็คือไม่ใช่ข้อสรุป
ที่แท้จริง ผมพิจารณาดูจากในคลิปนี้แล้ว เหตุการณ์ในคลิปเกิดขึ้น
บนน่านฟ้าระดับที่ไม่สูงเลย น่าจะแค่ ๆ เพดานบินของเครื่องบิน
ธรรมดาเท่านั้นเอง ไม่น่าจะเป็นน่านฟ้าของประเทศอื่น น่านฟ้าของ
ประเทศอินเดียอยู่ห่างจากไทยมากกว่า 5,000 กิโลเมตร โอกาศที่
จะเห็นวัตถุนี้ได้จากน่านฟ้าอินเดีย วัตถุนี้ต้องอยู่สูงระดับดวงดาวที่
เรามองเห็นตอนกลางคืนได้เลย อย่างไร ท่านลองดูคลิปอีกทีครับ
ส่วนคลิปด้านล่างนี้ก็เป็นอีกคลิปที่ดูแปลกครับ บันทึกได้
หลังจากคลิปด้านบนผ่านไปเพียง 2 เดือน บันทึกได้ใน
เขตแดนไทยครับ อำเภอสังคม จังหวัดหนองคาย
15 มีนาคม 2566
https://www.youtube.com/shorts/OcLjFeknWqI
รูหนอน ไม่เพียงแต่จะพบเฉพาะในทวีปยุโรปหรืออเมริกาครับ แม้แต่พื้นที่ใกล้ ๆ
กับประเทศไทยก็มีคนเจอครับ คือไปเจอที่เมืองเชนไน ประเทศอินเดีย
ถูกบันทึกได้เมื่อเดือน ธันวาคม 2015 ตามคลิปด้านล่างครับ เวลาในคลิป 3.29
เป็นวัตถุขาว ๆ มีหางบินอยู่
แต่ตอนที่กล้องถ่ายย้อนไปตามเส้นทางการบินของวัตถุนี้ ในคลิปเวลาที่ 4.44
ดูเหมือนว่าวัตถุนี้คล้าย ๆ กับจะเคลื่อนที่ออกมาจากบางสิ่งบางอย่างที่คล้าย ๆ
กับคลิปด้านบน ๆ ครับ ลองชมดูครับ
คลิปด้านล่างนี้เป็น Wormhole ที่บันทึกได้ที่สาธารณรัฐอินเดีย
ในรัฐทมิฬนาดู TAMILNADU เมือง VILLUPURAM เวลาโดยประมาณ
18.06 น. ปี 2015
คลิปนี้บันทึกได้ที่ เมืองเชนไน สาธารณรัฐอินเดีย 16 ธันวาคม 2015
คลิปนี้ดูสั้นมาก
เพราะว่าคนบันทึกซึ่งเป็นประชาชนธรรมดาขาดประสบการณ์แต่
คำบรรยายของเขาน่าสนใจครับ คือเขาอธิบายว่า Strange light
SPOTTED IN the sky after a disk like thing passed the area
สาธารณรัฐอินเดีย จัดเป็นอีกดินแดนหนึ่งที่มีประชากรมากเป็นลำดับ
ต้น ๆ ของโลก คือมีประชากรเกินกว่า 1 พันล้านคน
จะน้อยกว่าก็เพียงแค่สาธารณรัฐประชาชนจีน
แต่ว่าพื้นที่ของสาธารณรัฐอินเดีย
ซึ่งใหญ่กว่าราชอาณาจักรไทยประมาณ 6 เท่า
มีพื้นที่ที่น้อยกว่าสาธารณรัฐประชาชนจีนซึ่งมีพื้นที่ที่ใหญ่กว่า
ราชอาณาจักรไทยประมาณ 19 เท่า
ฉะนั้นแล้วหากเทียบสัดส่วนความหนาแน่นของประชากรต่อพื้นที่แล้ว
สาธารณรัฐอินเดีย
เป็นดินแดนที่มีความหนาแน่นของพลเมืองต่อพื้นที่มากเสียยิ่งกว่า
ราชอาณาจักรไทย หรือสาธารณรัฐประชาชนจีนเสียอีก
การพบเห็นวัตถุแปลก ๆ หรือเหตุการณ์แปลก ๆ
ก็ย่อมจะมักไม่ค่อยพ้นหูพ้นตาคนพันล้านคนไปเท่าไรนัก
ยิ่งถ้าหากคนคนนั้นมีกล้องบันทึก
หรือแม้กระทั่งมีแค่โทรศัพท์มือถือก็เพียงพอแล้วที่จะบันทึกเหตุการณ์
แปลก ๆ นั้นได้ ก็อย่างเช่นคลิปด้านล่างนี้ บันทึกได้ที่ sholinganallur
เมืองเชนไน เช่นเดียวกันโดยชาวบ้านธรรมดาครอบครัวหนึ่ง
ตอนแรกที่ผมดูคลิปนี้ก็ไม่แน่ใจว่าคืออะไร
คิดว่าเป็นยูเอฟโอลำหนึ่งธรรมดา
แต่มารู้ว่ายูเอฟโอลำนี้เคลื่อนที่ออกมาจากรูหนอนก็ในคลิปนาทีที่ 1.43
เป็นอีกเหตุการณ์หนึ่งที่น่าสนใจมากและควรแก่การบันทึกครับ
โดยส่วนตัวผมไม่คิดว่าคลิปนี้เป็นคลิปที่ทำขึ้น
เพราะว่ามียอดคนเข้าชมแค่ 500 คนเองครับ
ท่านครับ Area 51 อยู่ในมลรัฐเนวาดา สหรัฐฯ
หากว่าท่านเป็นนักวิทยาศาสตร์คนหนึ่งที่ได้มีโอกาสได้เข้าไปทำงานใน
สถานที่แห่งนี้ไม่จำเป็นเลยครับที่ท่านที่เข้าไปทำงานในสถานที่แห่งนี้
จะได้รู้ได้เห็นทุกการทดลองในสถานที่แห่งนี้
เพราะว่าหากท่านไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับโปรเจคใด ๆ
ที่ท่านรับผิดชอบอยู่แล้ว
ท่านจะไม่มีโอกาสได้เห็นการทดลองของคนอื่นหรือโปรเจคอื่น
(อย่างเด็ดขาด) จากการสืบค้นแล้ว คนที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับโปรเจค
ใด ๆ ที่ตนมีส่วนเกี่ยวข้องหรือรับผิดชอบอยู่
เวลาที่โปรเจคอื่นเขาจำเป็นต้องทำการทดลองนอกสถานที่
ต้องไปทดสอบด้านนอก นอกห้องทดลองแล้ว
บุคคลที่ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับโปรเจคนั้น ๆ
จะถูกต้อนเข้าไปในห้องประชุมเฉพาะที่มีระบบการรักษาความปลอดภัยที่
ดีเยี่ยม จากนั้นปิดประตู ปิดม่าน ปิดหน้าต่าง
แถมด้วยปิดผ้าคลุมด้านนอกเป็นอย่างดีอีกชั้น แต่ไม่ต้องเป็นห่วงครับ
เพราะว่าเขาจะเลี้ยงน้ำ เลี้ยงอาหาร เปิดแอร์ เปิดทีวีให้ท่านดูเป็นอย่างดี
ซึ่งมันจะเป็นเช่นนี้ไปจนกว่าการทดลองในโปรเจคนั้น ๆ จะจบสิ้น
จึงจะยอมให้บุคคลที่ไม่เกี่ยวข้องออกนอกสถานที่ได้
เพราะฉะนั้นแล้วบุคคลที่เกี่ยวข้องหรือรับผิดชอบกับโปรเจคนั้น ๆ
เฉพาะเท่านั้นจึงจะมีโอกาสได้เห็นได้ทำการทดลองในโปรเจคนั้น ๆ
ซึ่งนี่เป็นอีกหนึ่งวิธีในการรักษาความลับของเขา
และเป็นการแบ่งแยกหน้าที่ที่รับผิดชอบกันอย่างชัดเจน
ซึ่งมันน่าจะเป็นเช่นนั้นจริง ๆ ครับ
เพราะว่าสุดท้ายหลังจากที่คนที่เกษณียนอายุออกมาจาก Area 51
แล้วพยายามจะออกมาเล่าในสิ่งที่เขาได้ทำหน้าที่หรือปฎิบัติงาน
ฟังแล้วกระท่อนกระแท่นมากครับ เล่าจบคนฟังก็อยากจะฟังต่อรู้ต่อ
ก็คือเขารู้เฉพาะส่วนงานที่เขารับผิดชอบจริง ๆ
เรื่องอื่นที่หากเขาไม่มีส่วนเกี่ยวข้องแล้ว เล่าต่อไปไม่ได้
เขาบอกว่าเขาไม่รู้ ไม่ใช่หน้าที่เขา เขาไม่ได้โกหกครับ
เขาอยากจะเล่าต่อ แต่ว่าเขาไม่รู้จริง ๆ
มันเสมือนงานสำคัญที่จำเป็นต้องรักษาไว้เป็นความลับมาก ๆ
แล้วที่ถูกต้องแล้วท่านอาจจะต้องแบ่งย่อยทำเป็นจิ๊กซอร์ ตัวต่อ เล็ก ๆ
ย่อย ๆ เพื่อปกป้องงานใหญ่ไว้ ให้ไว้สำหรับคนที่ระดับบิ๊ก ๆ จริง ๆ
ซึ่งก็คงจะมีไม่กี่คนจะสามารถรู้ตัวต่อทั้งหมดได้ ตัวต่อเล็ก ๆ ย่อย ๆ
หมดสิทธิ์ครับ ฝรั่งเขาทำได้ดีมาก ๆ รักษาความลับได้ดีมาก ๆ เลยครับ
อีกกระบวนการหนึ่งที่ผมสืบรู้มาก็คือในกระบวนการรักษาความลับในพื้น
ที่ Area 51 แล้ว ชื่อ นามสกุล ของเจ้าหน้าที่ที่ทำงานข้างใน Area 51
ทางหน่วยงานต้นสังกัด เขาไม่ให้ใช้ชื่อจริงและนามสกุลจริงครับ
เพราะฉะนั้นแล้วชื่อสกุลที่เรียกขานกันในนั้น
ล้วนแล้วแต่เป็นชื่อปลอมนามสกุลปลอมทั้งสิ้น
ด้วยเหตุนี้
ภายหลังจากที่คนเหล่านี้หมดหน้าที่ไปกลับไปเป็นประชาชนคนธรรมดา
ๆ แล้ว หากมีคนนึกคิดจะไปตามหาบุคคลด้วยชื่อสกุลที่เคยเรียก ๆ
กันตอนทำงานใน Area 51 ซึ่งคุมความลับต่อ(จิ๊กซอร์ตัวต่อไป)
หาไม่เจอครับ หรือเจอก็เป็นใครก็ไม่รู้
ทำให้อนุมานได้ว่าหากท่านต้องการจะรักษาความลับสำคัญแล้ว
ท่านจะต้องเงียบให้เก่งที่สุด หรืออีกอย่างก็โกหกให้เก่งไปเลย
เหตุการณ์ในคลิปด้านล่างนี้ มีประชาชนนอกพื้นที่ที่อยู่ในมลรัฐเนวาดา
เมือง Overton บันทึกไว้ได้ บันทึกได้ในวันที่ 16 มกราคม 1997
มีความเป็นไปได้ว่าสิ่งที่เห็นนี้จะเป็นหนึ่งในหลาย ๆ
โปรเจคที่ทำการทดลองอยู่ มีความเป็นไปได้ว่าจะเป็น
Project Wormhole ลองชมดูครับ เวลาที่บันทึกได้เป็นเวลาเย็น ๆ
ในตอนต้น ๆ
ของคลิปจะเห็นชัดครับว่าปากทางของรูหนอนดูเหมือนจะมีจุดเริ่มต้นที่พุ่ง
ขึ้นมาจากภาคพื้นดิน
แต่ในคลิปเขาบรรยายว่าน่าจะเป็นการทดสอบขีปนาวุธ
คนบันทึกได้บันทึกได้ตอนกำลังขับรถมุ่งหน้าไป ลาสเวกัสครับ
ฝากให้ท่านพิจารณาอีกคลิปครับ