ยูเอฟโอโบราณที่อยู่บนดวงจันทร์
เรื่องนี้อยากให้ท่านใช้วิจารณญาณในการรับชมครับ
เพราะไม่มีหน่วยงานใดออกมารองรับความถูกต้อง
แต่ก็ยังไม่มีหน่วยงานของรัฐบาลกลางประเทศมหาอำนาจออกมาปฎิเสธเช่นเดียวกัน
เพราะฉะนั้นมันอาจจะเป็นเรื่องจริงหรือเท็จก็ได้
จึงขอนำเสนอเพื่อให้ท่านชมเพื่อความบันเทิงครับ
เรื่องนี้ปรากฎในเวบมาหลายปีเหมือนกันครับ ตอนแรก ๆ
ก็ไม่ค่อยมีใครอยากจะไปเชื่อกันเท่าไรนัก เพราะมันดูเป็นนิยายเสียมากกว่า
จนกระทั่งเกิดการเสียสตางค์ซื้อฟิลม์จากแหล่ง
มาทำการขยายภาพและประมวลเรื่องราวทั้งหมด
จึงพอคิดว่าน่าจะพอเชื่อถือได้บ้างกับเรื่องนี้
มีชายคนหนึ่งที่อ้างว่าเคยทำงานให้กับองค์การบริหารการบิน
ก็นานมาแล้วเหมือนกันประมาณช่วงปลาย ๆ ทศวรรษ 1970 เขาชื่อคุณวิลเลียม
รัชเลต(William Rutledge)
ปัจจุบันเขาเกษียณแล้วและดูเหมือนกับว่าอาศัยอยู่ในทวีปแอฟริกา
เขาอ้างว่าเขาได้เคยทำงานในปฎิบัติการสำคัญขององค์การบริหารการบินเลยทีเดียว
คือภารกิจ อพอลโล 19 และอพอลโล 20 ซึ่งเกิดขึ้นประมาณเดือนสิงหาคม 1976(เกือบ 40
ปีแล้ว) ปฎิบัติการนี้ถูกส่งขึ้นจากฐานทัพอากาศ Vandenberg
ภารกิจทั้งสองนี้
คุณรัชเลตกล่าวอ้างว่าเป็นภารกิจร่วมระหว่างสหรัฐอเมริกาและอดีตสหภาพโซเวียต
ภารกิจนี้มีจุดประสงค์เพื่อไปสำรวจยานอวกาศไม่ทราบสัญชาติขนาดใหญ่และำก็เป็นยานอว
กาศที่ไม่ใช่มนุษย์ทำขึ้น บนด้านไกล(ด้าน Far side)
ของดวงจันทร์ที่อยู่ในส่วนที่เรียกว่า Delporte-Izsak region
ซึ่งถูกถ่ายภาพไว้ได้ตั้งแต่โครงการอพอลโล 15 แล้ว
ยานอวกาศลำนี้เข้าใจว่าจะตกหรือถูกทิ้งไว้เช่นนั้นมานานแสนนานแล้ว
ซึ่งจากการตรวจสอบวัตถุธาตุด้วยกรรมวิธี คาร์บอน-14
แล้วพบว่าวัตถุที่ตรวจพบมีอายุอยู่ในช่วง 1,499,988 ปี(
หนึ่งล้านสี่แสนเก้าหมื่นเก้าพันเก้าร้อยแปดสิบแปดปี
ยานอวกาศลำนี้จะไปเรียกว่าใหญ่คงไม่ถูกต้องนักครับ เพราะมันควรจะต้องเรียกว่า
"มหึมา" ก็ขอให้ท่านเทียบขนาดของยานลำนี้เมื่อเทียบกับเรือควีนแมรี่
หรือไปเทียบกับหอไอเฟลดูเองครับ ยาวประมาณ 3 กิโลเมตรเศษ ส่วนสูงก็ประมาณ 0.5
กิโลเมตร หรือถ้าเอาไปเทียบกับเมืองใหญ่ ๆ ในสหรัฐอเมริกาก็ประมาณนี้ได้ครับ
คุณรัชเลตกล่าวต่อไปว่า นักบินอวกาศของโซเีวียตที่ชื่อ Lexei Leonov
นำยานอวกาศ(ของโซเวียตผลิต)
ลงจอดในจุดที่ใกล้กับยานลำนี้และได้เข้าไปในยานลำนี้จริง ๆ
โอเคได้พบเห็นอะไรหลายอย่างในยานอวกาศลำนี้ และที่น่าแปลกใจกว่านั้นอีกคือได้เจอคน
คนที่หน้าตาเหมือนคนบนโลกนี่ละครับ แต่เสียชีวิตไปแล้วอยู่บนยานลำนี้
เข้าใจกันว่าเป็นนักบินของยานลำนี้
ศพแรกเป็นสุภาพสตรีอยู่ในสภาพที่เรียกว่าค่อนข้างดีเลยครับ อวัยวะอยู่ครบเกือบทุกส่วน
สูงโดยประมาณ 165 เซ็นติเมตร อวัยวะเพศ ผม นิ้วมือมี 6 นิ้วยังอยู่ครบ
ส่วนอีกศพ ถูกย่อยสลายไปพอควรแล้ว เหลือแต่ศีรษะ
ศพของสุภาพสตรีท่านนี้ภายหลังถูกตั้งชื่อว่า "Mona Lisa."
ดูเหมือนบริเวณนิ้วมือและตาจะมีลักษณะเป็นอุปกรณ์บังคับยานติดอยู่ด้วย
มีจมูกไม่พบรูจมูก นักบินคนหนึ่งไปถอดอุปกรณ์ที่ตาของศพหญิงคนนี้
ปรากฎว่ามีของเหลวไหลทะลักออกมาทางปาก เขารายงานกลับไปยังศูนย์ควบคุมว่า
ดูคล้าย ๆ กับว่าเธอทั้งไม่เป็นและทั้งไม่ตายเพราะสภาพที่เห็นดีมาก
ทั้งนี้ยังพบเห็นวัตถุแปลก ๆ ติดอยู่บนใบหน้าของศพหญิงคนนี้ด้วย โดยติดอยู่ที่ตา
เชื่อมลงมาที่ปากและหน้าผาก
ถ้าพิจารณาใบหน้าของหญิงคนนี้ให้ดีจะพบว่าเป็นส่วนผสมของคนเอเชียกับคนแอฟริกาค
รับ คือมีดวงตาเล็กเรียวเหมือนหญิงคนเอเชีย
ในขณะที่มีริมฝีปากที่ใหญ่หนาคล้ายคนแอฟริกา
ทั้งนี้การถักผมก็คล้ายคนสุเมเรียนซึ่งเป็นคนเผ่าแอฟริกา(ฝรั่งเขาว่างั้น)
คาดกันว่าเป็นอุปกรณ์ควบคุมยานลำนี้ด้วยระบบโทรจิต(Telepathic)
ศพสุภาพสตรีคนนี้เปลือยครับ
แต่มีวัตถุบางอย่างคล้ายกับผ้าคลุมร่างนี้ไว้ วัตถุคล้าย ๆ
ผ้านี้ตอนหลังถูกนำไปตรวจสอบพบว่าในวัตถุมีผังวงจรที่ซับซ้อนอยู่ในนั้นด้วย
ยานอวกาศลำนี้นักบินอวกาศของรัสเซียประมาณการว่ามีอายุอยู่ในช่วง 1 - 1.5 ล้านปีี
พบสัญญาณของสิ่งมีชีวิตบนยานลำนี้ พบพืชโบราณ ฟังดูเหมือนนิยาย
แต่ไม่ว่าอย่างไรก็ตามว่าเรื่องนี้จะเป็นจริงหรือเท็จนั้น ภาพที่ยานอวกาศอพอลโล 15
ถ่ายได้ว่ามียานอวกาศบนด้านไกล(far side)